วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555

อาชีพคนไทย กับ เศรษฐกิจไทย

ที่มา http://www.oknation.net/blog/current/2008/09/15/entry-4
เป้าหมายของเศรษฐกิจไทย คือ มีอัตราการเจริญเติบโตของหน่วยผลิตทางเศรษฐกิจในด้านต่างๆที่สูง ซึ่งแบ่งออกเป็นด้านเศรษฐกิจที่สำคัญๆดังนี้



ที่มา http://www.rakbankerd.com/view.php?id=1347&s=1
   ด้านเกษตรกรรม อาชีพคนไทยส่วนใหญ่มักประกอบอาชีพทางด้านเกษตรกรเป็นหลัก เพราะ สภาพภูมิประเทศของไทยนั้นเหมาะสมแก่การทำเกษตรกรรมมากที่สุด ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุดก็คือการได้รับความช่วยเหลือด้านราคาผลผลิตจากรัฐบาล


ที่มา http://www.tnews.co.th/html/read.php?hot_id=18971


   ด้านอุตสาหกรรม แรงงานส่วนใหญ่ของไทยนั้นมักจะประกอบอาชีพเป็นลูกจ้างในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ แรงงานเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญของธุรกิจอุตสาหกรรม ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุดก็คือการได้รับค่าจ้างที่สูงๆและการดูแลเอาใจใส่จากนายจ้าง


   ด้านประมง อาชีพคนไทยในภาคใต้มักประกอบอาชีพทางด้านประมง เพราะ ภาคใต้ติดทะเลและมีเกาะต่างๆมากมาย ซึ่งอาชีพเหล่านี้มีเรือเป็นพาหนะที่สำคัญในการออกไปหาสัตว์ในทะเล ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุดก็คือ ความร่วมมือกันรักษากฎระเบียบในการจับสัตว์ทะเลอย่างเคร่งครัดของชาวประมงทุกๆคน



ที่มา http://www.csandn.co.th/Services.htm
   ด้านขนส่ง อาชีพคนไทยพวกนี้จะมีความชำนาญและความเชี่ยวชาญในอาชีพเหล่านี้ เพราะต้องมีทักษะการดำเนินการ วางแผน พัฒนา และแก้ไข ปรับปรุง ซึ่งการขนส่งเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ของประเทศที่มีหลายหน่วยงานและแรงงานอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ละประเภทมีเป้าหมายและขอบเขตการรับผิดชอบที่แตกต่างกัน เช่น การขนส่งทางอากาศโดยเครื่องบิน รับผิดชอบเรื่องการท่องเที่ยวเป็นหลัก การขนส่งทางน้ำโดยเรือ รับผิดชอบด้านการส่งออกและนำเข้าสินค้าเป็นหลัก การขนส่งทางบกโดยรถบรรทุก รับผิดชอบด้านการขนส่งวัตถุดิบต่างๆเป็นหลัก เป็นต้น ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุดก็คือ การได้รับความไว้วางใจจากนักธุรกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ
























สังคมของมนุษย์

ที่มา http://www.learners.in.th/blogs/posts/395482
   
   สังคมเมือง เป็นสังคมที่มีจำนวนคนมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นศูนย์กลางของความเจริญในด้านต่างๆ ซึ่งสังคมเมืองมีลักษณะที่สำคัญๆดังนี้
1. ครอบครัวมีขนาดเล็ก
2. ไม่ค่อยมีความสัมพันธ์และช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
3. สังคมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
4. เป็นศูนย์กลางของความเจริญทางเศรษฐกิจ
5. คนในเมืองมีอาชีพแตกต่างกัน
6. มีค่านิยมที่ค่อนข้างสูง


ที่มา http://www.learners.in.th/blogs/posts/324841
     สังคมชนบท เป็นสังคมที่มีจำนวนคนมาอาศัยอยู่น้อยกว่าสังคมเมือง มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย เป็นแหล่งที่มีทรัพยากรธรรมชาติมากกว่าสังคมเมือง ซึ่งสังคมชนบทมีลักษณะที่สำคัญๆดังนี้
1. เป็นหน่วยผลิตสำคัญทางเศรษฐกิจ
2. มีความสัมพันธ์และช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
3. มีความเชื่อในเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และโชคลาง
4. ครอบครัวมีขนาดใหญ่
5. คนในชนบทมีอาชีพเหมือนกัน


ที่มา http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=1156882  
   สังคมอนาคต เป็นสังคมในอุดมคติของมนุษย์ทุกๆคนที่ต้องการเพราะมีทั้งความเจริญในด้านเศรษฐกิจและทางด้านทรัพยากรธรรมชาติของประเทศที่มั่นคงและยืนยาว ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน มนุษย์มีความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย มีวิถีการดำเนินชีวิตที่ดีขึ้น มีสุขภาพกายและจิตที่เข้มแข็ง ซึ่งสังคมอนาคตมีลักษณะที่สำคัญๆดังนี้
1. มนุษย์ทุกๆคนมีจิตใต้สำนึกในเรื่องของการทำประโยชน์ให้กับสังคม มากกว่า ทำประโยชน์ให้กับตัวเอง 
2.  ไม่แบ่งชนชั้นทางสังคม ไม่มีช่องว่างทางสังคม มนุษย์ทุกๆคนมีสิทธิและโอกาสเท่าเทียมกัน
3. รักษาและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไปพร้อมๆกับการพัฒนาเศรษฐกิจในด้านต่างๆ     










มนุษย์ กับ สิ่งแวดล้อม

   เมื่อมนุษย์้เกิดขึ้นมาบนโลก ทุกชีวิตล้วนมีความเกี่ยวข้องกับธรรมชาติทั้งนั้น มนุษย์เริ่มมีการเรียนรู้วิธีการดำเนินชีวิตจากธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมรอบๆตัว การนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันก็เป็นเป้าหมายสูงสุดที่มนุษย์ต้องการ เพื่อนำมาตอบสนองความต้องการของตนเองที่ไม่มีวันหมดสิ้นหรือเพื่อความอยู่รอดของตนเอง แต่จำนวนมนุษย์เริ่มมีจำนวนที่เพิ่มสูงขึ้น ความต้องการที่จะใช้ทรัพยากรธรรมชาติเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดที่สุดในโลก มนุษย์เริ่มหาวิธีการต่างๆเพื่อที่จะรักษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้คงอยู่ตลอดไป เพราะ มนุษย์ต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติในด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆด้วยเช่นกัน 

กลอนน้ำท่วม
ที่มา http://www.zoneza.com/view4782.htm    
   ทรัพยากรน้ำ น้ำมีความสำคัญอย่างยิ่งกับชีวิตของพืชและสัตว์บนโลกรวมทั้งมนุษย์เราด้วย รวมถึง น้ำเป็นแหล่งกำเนิดชีวิตของสัตว์และพืชคนเรามีชีวิตอยู่โดยขาดน้ำได้ไม่เกิน 3 วัน และน้ำยังมีความจำเป็นทั้งในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศ

ที่มา http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet6/envi2/subsoil/soil.htm
   ทรัพยากรดิน  ดินมีประโยชน์มากมายมหาศาลต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิต คือ  เป็นประโยชน์ต่อการเกษตรกรรม ซึ่งเป็นแหล่งผลิตอาหารของมนุษย์ เป็นแหล่งอาหารสัตว์ทั้งพวกพืชและหญ้าที่ขึ้นอยู่ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย แผ่นดินเป็นที่ตั้งของเมือง บ้านเรือน ทำให้เกิดวัฒนธรรมและอารยธรรมของชุมชนต่างๆ และเป็นแหล่งเก็บกักน้ำ ซึ่งอยู่ในรูปของความชื้นในดิน

ที่มา http://pirun.ku.ac.th/~b521030313/Page%203.html
   ทรัพยากรป่าไม้  ป่าไม้มีประโยชน์ทั้งการเป็นแหล่งวัตถุดิบของปัจจัยสี่  คือ  อาหาร  เครื่องนุ่งห่ม  ที่อยู่อาศัยและยารักษาโรคสำหรับมนุษย์ และยังมีประโยชน์ในการรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อม  ถ้าป่าไม้ถูกทำลายลงไปมาก ๆ  ย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ  เช่น  สัตว์ป่า  ดิน  น้ำ  อากาศ  ฯลฯ 

ที่มา http://www.ku.ac.th/AgrInfo/wild/
   ทรัพยากรสัตว์ป่า สัตว์ป่าเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของมนุษย์และรักษาความสมดุลของห่วงโซ่อาหารในธรรมชาติ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของสิ่งมีชีวิตใหม่ๆมากมายในธรรมชาติ ซึ่งทรัพยากรเหล่านี้มนุษย์ควรอนุรักษ์และปกป้องไม่ให้สูญหายไปจากโลกใบนี้

 
 
 
 
 

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

มนุษย์ กับ โลกร้อน






ที่มา http://www.gotoknow.org/blog/oodapichai/210002
ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นได้ทั้งต้นทุนหรือวัตถุดิบที่มนุษย์นำมาใช้เพื่อความเจริญทางเศรษฐกิจ ประเทศใดก็ตามที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ประเทศนั้นจะมีความร่ำรวยและมีความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ แต่เมื่อใดก็ตามที่มนุษย์นำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ไม่ถูกวิธีก็ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติบางชนิดหมดสิ้นไปจากโลกนี้ได้ การที่มนุษย์ให้ความสำคัญด้านอุตสาหกรรม มากกว่า การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ส่งผลให้ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติมีแนวโน้มลดลง ต้องมีการปลูกฝังให้มนุษย์อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่ตลอดไป เพราะ เศรษฐกิจจะอยู่ได้ต้องพึ่งต้นทุนหรือวัตถุดิบที่มาจากทรัพยากรธรรมชาติ



ที่มา http://pirun.ku.ac.th/~b5002151/page2.html




ปรากฏการณ์เรือนกระจก มีความสำคัญกับโลก เพราะก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ หรือ มีเทน ที่เกิดจากการเผาไหม้พลังงานต่างๆ ไอเสียจากควันของโรงงานอุตสาหกรรม ควันจากรถยนต์ สิ่งเหล่านี้จะกักเก็บความร้อนบางส่วนไว้ในในโลก ไม่ให้สะท้อนกลับสู่บรรยากาศทั้งหมด  ซึ่งจะทำให้โลกกลายเป็นแบบดวงจันทร์ ที่ตอนกลางคืนหนาวจัด และ ตอนกลางวันร้อนจัด เพราะไม่มีบรรยากาศ กรองพลังงาน จาก ดวงอาทิตย์ ซึ่งการทำให้โลกอุ่นขึ้นเช่นนี้ คล้ายกับหลักการของ เรือนกระจก (ที่ใช้ปลูกพืช) จึงเรียกว่า ปรากฏการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect) ซึ่งเป็นปัญหาให้เกิดภาวะโลกร้อนและภัยธรรมชาติมากมาย


ที่มา http://www.dek-d.com/board/view.php?id=892676  
ผลกระทบที่เกิดจากโลกร้อน ที่ในปัจจุบันมองเห็นได้อย่างชัดเจนคือ อากาศร้อนขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย สัตว์ขั้วโลกไร้ที่อยู่  เกิดภัยธรรมชาติมากมาย ระดับน้ำทะเลโลกสูงขึ้น เกิดมลพิษในอากาศ สุขภาพกายและสุขภาพจิตเสื่อมโทรม ฤดูกาลเปลี่ยนแปลงมาไม่ปกติ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้เป็นผลมาจากความไม่สมดุลกันของปริมาณทรัพยากรธรรมชาิติของโลกที่มีน้อยกว่าสิ่งปลูกสร้างและโรงงานอุตสาหกรรมที่มนุษย์สร้างอยู่ทั่วโลก 



ที่มา http://eduvc.oas.psu.ac.th/~user110/Energy.html

พลังงานทดแทน เป็นพลังงานที่ใช้แทนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นพลังงานหลักที่ใช้กันอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เป็นมิตรต่อธรรมชาติ ซึ่งเป็นการช่วยลดปัญหาการใช้พลังงานในด้านต่างๆที่ทำให้เกิดปัญหาโลกร้อน พลังงานทดแทนที่มีอยู่ในปัจจุบันคือ พลังงานน้ำ ที่เป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ ที่เป็นแหล่งรเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานไฟฟ้าและพลังงานความร้อน โดยผ่านแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแผ่นรับแสงสีดำ และพลังงานลม ที่ใช้ในการหมุนกังหันลมสูบน้ำ

ที่มา http://icare.kapook.com/content_detail.php?t_id=0&id=1520
วิธีการแก้ไขและช่วยลดปัญหาโลกร้อน มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำให้เกิดปัญหาโลกร้อน และเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดที่สุดในโลก การหาทางป้องกันและแก้ไขปัญหาโลกร้อนนั้น มนุษย์ทุกคนที่อยู่ในโลกต้องมีส่วนร่วมช่วยเหลือกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเริ่มต้นจากตนเอง ซึ่งมีวิธีการหลักๆและวิธีการปฏิบัติง่ายๆดังนี้
1.ลดการใช้พลังงานในบ้าน  ด้วยการปิดทีวี คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ  เมื่อไม่ได้ใช้งาน
2.ขับรถยนต์ส่วนตัวให้น้อยลง  ด้วยการปั่นจักรยานใช้รถโดยสารประจำทาง  หรือใช้การเดินแทนเมื่อต้องการไปทำกิจกรรมหรือธุระใกล้ๆ บ้าน 
3.มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม  ครั้งต่อไปเมื่อจะซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ มองหาป้ายสัญลักษณ์ เช่น ป้ายฉลากเขียวประหยัดไฟเบอร์ 5 มาตรฐานผลิตภัณฑ์คุณภาพสินค้าเกษตรอินทรีย์ เป็นต้น
4.ไปตลาดสดแทนซุปเปอร์มาเก็ตในบางครั้ง เลือกซื้อผักผลไม้ หมู ไก่ ปลา ในตลาดสดใกล้บ้านแทนการช้อปปิ้ง      ในซุปเปอร์มาเก็ต  ที่อาหารสดทุกอย่างมีการหีบห่อด้วยพลาสติกและโฟมทำให้เกิดขยะจำนวนมากลองหิ้วตระกร้าหรือถุงผ้าไปจ่ายตลาดดูหรืองดการใช้โฟมหรือถุงพลาสติก
5.ขับรถอย่างมีประสิทธิภาพ ในระยะทางไกล การขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะช่วยลดการใช้น้ำมันลงได้ 20 % และก่อนออกเดินทางต้องมีการสำรวจเส้นทางและวางแผนในการเดินทางก่อนเสมอ













































วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

การปลูกจิตใต้สำนึก

โครงงานจิตสาธารณะของกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร 
สาขา เศรษฐศาสตร์การเงินการธนาคาร
   
     ในสังคมเมืองปัจจุบัน มนุษย์ต้องมีการแข่งขันในด้านต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและเพื่อความอยู่รอด โดยไม่สนใจกับสังคมรอบด้านว่าจะมีสภาพเป็นอย่างไร มนุษย์เริ่มมีความเห็นแก่ตัวสูงขึ้น ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ทำเพื่อตนเอง มากกว่า ทำเพื่อสังคม ขาดจิตใต้สำนึกและจริยธรรมที่ดีในการดำรงชีวิต มีช่องว่างทางสังคมเกิดขึ้น ซึ่งผู้ที่มีโอกาสมากมักจะได้สิทธิและผลประโยชน์ มากกว่า ผู้ที่ด้อยโอกาสในด้านต่างๆเสมอ ถูกเอารัดเอาเปรียบอยู่ตลอดเวลา ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาได้ดีที่สุดคือ ต้องปลูกฝังจิตใต้สำนึกที่ดีให้กับบุคลากรในประเทศ โดยการสร้างกิจกรรมช่วยเหลือสังคมต่างๆ เช่น การออกค่ายพัฒนา ทำโครงงานจิตสาธารณะหรือจิตอาสา ร่วมบริจาคสิ่งของช่วยเหลือต่างๆตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น เพราะ สังคมที่ดีต้องอยู่บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกัน ไม่เห็นผลประโยชน์ส่วนตัว มากกว่า ประโยชน์ส่วนรวม